ชมภาพ-คลิป เที่ยวทริป…ศาลพันท้ายฯ – บ้านดอนไก่ดี

R-U-GO.com : กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย โดย นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน (พช.) นำทีมเจ้าหน้าที่และสื่อมวลชนลงพื้นที่ตามโครงการ “พช.สัมพันธ์สัญจร สมุทรสาคร-ราชบุรี” เพื่อศึกษาความสำเร็จของชุมชนท่องเที่ยว “OTOP นวัตวิถี” ที่ กรมการพัฒนาชุมชน มีส่วนสำคัญในการขับเคลื่อนและให้การสนับสนุน แนวทางการดำเนินงาน จนสามารถสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้กับชุมชน และเห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

ประเดิมกันที่การสักการะ ศาลพันท้ายนรสิงห์ อนุสาวรีย์แห่งความซื่อสัตย์ของการรักษากฎมณเฑียรบาล ตั้งอยู่ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ ณ บริเวณปากคลองโคกขาม สถานที่ซึ่งเคยเกิดเหตุการณ์หัวเรือพระที่นั่งของพระเจ้าเสือหัก ต.พันท้ายนรสิงห์ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร

อุทยานประวัติศาสตร์พันท้ายนรสิงห์ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานของชาติ เมื่อวันที่ 4 มกราคม 2498 มีเนื้อที่โดยรอบจำนวน 100 ไร่ ปัจจุบันกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่สำคัญของ ต.พันท้ายนรสิงห์ และเป็นที่ตั้งของวัดศาลพันท้ายนรสิงห์ รวมทั้งเส้นทางเดินศึกษาสภาพป่าชายเลนที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้ โดยในส่วนของศาลพันท้ายนรสิงห์ มีรูปปั้นของพันท้ายนรสิงห์ขนาดเท่าคนจริงอยู่ในท่าถือท้ายคัดเรือ เป็นที่พึ่งทางใจและเป็นที่นับถือของชาวบ้านอย่างมาก ชาวบ้านนิยมมาขอพรแล้วเมื่อสำเร็จ ก็แก้บนด้วยนวมชกมวย ไม้พายเรือ หรือรูปปั้นไก่แก้ว เพราะตามประวัติแล้ว ท่านชอบชกมวยและตีไก่

ส่วนหนึ่งของรูปปั้นไก่แก้วที่ชาวบ้านนำมาสักการะศาลพันท้ายนรสิงห์

สภาพความสมบูรณ์ของป่าชายเลนภายในอุทยานฯ ที่นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาศึกษา
พื้นที่คลองโคกขาม บริเวณภายในอุทยานฯ ซึ่งสันนิษฐานว่่าเป็นสถานที่เกิดเหตุเรือพระที่นั่งพระเจ้าเสือชนกิ่งไม้จนหัวเรือหัก

ภายในศาลยังมีหลักประหารพันท้ายนรสิงห์ รวมไปถึงซากเรือไม้ตะเคียนโบราณ ซึ่งทำจากไม้ตะเคียนขนาดใหญ่ มีความยาว 19.47 เมตร กว้าง 2.09 เมตร สูง 1 เมตร และกาบเรือหนา 7.5 ซม. คาดว่ามีอายุกว่า 300 ปี โดย ชาวบ้านใน ต.พันท้ายนรสิงห์ เป็นผู้ขุดพบ และนำมาบริจาคไว้ที่ศาลพันท้ายนรสิงห์ โดยชาวบ้านในแถบนี้เชื่อว่าอาจเป็นเรือในขบวนเสด็จ หรือเรือที่ใช้ลำเลียงทหารในอดีต โดยผู้เยี่ยมชมยังสามารถเยี่ยมชมหอพระ และศาลแม่ศรีนวล (ภรรยาของพันท้ายนรสิงห์) ในบริเวณใกล้เคียงได้อีกด้วย

หลักประหารพันท้ายนรสิงห์ซึ่งขุดพบในภายหลัง
ความสมบูรณ์ของเรือโบราณที่ถูกขุดพบโดยชาวบ้านในพื้นที่

หมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

สำหรับชุมชนท่องเที่ยว OTOP นวัติวิถีแห่งแรกที่คณะได้เยี่ยมชมคือ “หมู่บ้านเบญจรงค์บ้านดอนไก่ดี” ตั้งอยู่ที่ หมู่ที่ 1 ต.ดอนไก่ดี อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร หมู่บ้านที่สืบทอดการผลิตเครื่องเบญจรงค์กันมาหลายชั่วอายุคน จนถือเป็น 1 ใน 50 ชุมชนต้นแบบ OTOP นวัติวิถี

ในอดีต เมื่อประมาณ ปี 2525 กลุ่มชาวบ้านในหมู่บ้านส่วนมากเป็นกลุ่ลูกจ้างของโรงงานเสถียรภาพ หรือโรงชามไก่ จึงทำให้มีภูมิความรู้และทักษะการผลิตเครื่องลายคราม ต่อมาเมื่อโรงงานปิดกิจการลง ชาวชุมชนที่ว่างงานจึงได้ร่วมกลุ่มกันเพื่อผลิตถ้วยชามลายครามและมีการพัฒนารูปแบบอย่างต่อเนื่องจนเกิดเป็นเครื่องเบญจรงค์มาจนถึงทุกวันนี้

เครื่องเบญจรงค์บ้านดอนไก่ดีมีการพัฒนาด้านลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ของไทยด้วยสี 5 สี และยังมีการใช้สีที่สวยงามยิ่งขึ้น อาทิ ลายน้ำทอง มีสีทองช่วยเสริมความสวยงามและโดดเด่นของลวดลายการพัฒนางานเบญจรงค์แพร่ออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้ในปี 2546 ผลิตภัณฑ์เครื่องเบญจรงค์บ้านดอนไก่ดีได้รับรางวัลสินค้า OTOP ระดับ 5 ดาว และยังได้รับรางวัลชุมชนดีเด่นทางด้านการท่องเที่ยวเมื่อปี 2550 และรางวัลอื่น ๆ อีกมากมาย

“หมู่บ้านเบญจรงค์บ้านดอนไก่ดี” ยังมีการบริการที่พักแบบโฮมสเตย์ให้นักท่องเที่ยวที่สนใจงานเบญจรงค์เข้าไปศึกษาวิถีชีวิตและเรียนรู้กระบวนการผลิตเบญจรงค์อีกด้วย รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อได้ที่ โทร.08 1995 9196

โฮมสเตย์ภายในหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี
โฮมสเตย์ภายในหมู่บ้านเบญจรงค์ดอนไก่ดี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องที่ต้องการถูกทำเครื่องหมาย *