ยกระดับนวัตกรรมอาหารไทย จาก “ผู้ผลิต” สู่ “เจ้าของนวัตกรรม”

1 min read

“สถาบันอาหาร” ผนึก “กรมทรัพย์สินทางปัญญา”

ลงนาม MOU ยกระดับนวัตกรรมอาหารไทย

จาก “ผู้ผลิต” สู่ “เจ้าของนวัตกรรม” ด้วยทรัพย์สินทางปัญญา

R-U-GO.COM:สถาบันอาหาร (NFI) และกรมทรัพย์สินทางปัญญา (DIP) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเชิงยุทธศาสตร์ด้านนวัตกรรมอาหารและทรัพย์สินทางปัญญา

เพื่อบูรณาการความร่วมมือด้านนวัตกรรมและทรัพย์สินทางปัญญาในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่อุตสาหกรรมอาหารไทย

โดยมุ่งยกระดับขีดความสามารถของผู้ประกอบการจาก “ผู้ผลิต” สู่ “เจ้าของนวัตกรรม”

และเสริมศักยภาพการแข่งขันได้อย่างยั่งยืนในตลาดโลก

 นางสาวไปยดา หาญชัยสุขสกุล ผู้อำนวยการสถาบันอาหาร เปิดเผยว่า

ความร่วมมือระหว่างสถาบันอาหาร (NFI) กับกรมทรัพย์สินทางปัญญาในครั้งนี้ นับเป็นก้าวสำคัญของการเชื่อมโยง “นวัตกรรมอาหาร” เข้ากับ “ทรัพย์สินทางปัญญา” อย่างเป็นระบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อผลักดันให้งานวิจัย เทคโนโลยี และการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารของไทยสามารถต่อยอดสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้จริง โดยมีเป้าหมายในการสร้างมูลค่าเพิ่มและเสริมขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการไทยในตลาดโลกอย่างยั่งยืน

 “ปัจจุบันสถาบันอาหารมีความพร้อมด้านองค์ความรู้ งานวิจัยและพัฒนา มาตรฐานอาหาร รวมถึงเครือข่ายผู้ประกอบการอาหารทั่วประเทศ ขณะที่กรมทรัพย์สินทางปัญญาเป็นกลไกหลักในการคุ้มครองและส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญา ความร่วมมือครั้งนี้จึงนับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการร่วมกันสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมอาหารของไทยให้มีความเข้มแข็งตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ”

ทั้งนี้ ภายใต้ MOU ดังกล่าว ทั้งสองหน่วยงานจะร่วมกันขับเคลื่อนการดำเนินงานใน 5 ด้านหลัก ประกอบด้วย

1. การส่งเสริมและพัฒนานวัตกรรมอาหารที่เชื่อมโยงกับทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อเพิ่มมูลค่าและขีดความสามารถในการแข่งขันของอุตสาหกรรมอาหารของประเทศ

2. การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ ข้อมูลทางวิชาการ และเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง การบริหารจัดการ และการใช้ประโยชน์จากทรัพย์สินทางปัญญาในธุรกิจอาหาร

3. การพัฒนาและยกระดับศักยภาพของผู้ประกอบการและบุคลากรในอุตสาหกรรมอาหาร ผ่านการอบรม สัมมนา หรือกิจกรรมส่งเสริมความรู้ด้านนวัตกรรม เทคโนโลยี และทรัพย์สินทางปัญญา

4. การส่งเสริมการคุ้มครองและการนำทรัพย์สินทางปัญญาไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ให้กับผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมอาหาร

5. การพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานนวัตกรรมอาหารของประเทศ

“เป้าหมายสำคัญคือ การช่วยให้ผู้ประกอบการอาหารไทย โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และนักนวัตกรรม เห็นคุณค่าและสามารถใช้ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นเครื่องมือในการสร้างความแตกต่าง เพิ่มมูลค่าสินค้า และขยายโอกาสทางการตลาดในเวทีโลกได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน โดยความร่วมมือดังกล่าวมีระยะเวลา 3 ปี และจะมีการขับเคลื่อนกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งในรูปแบบการอบรม ถ่ายทอดองค์ความรู้ และการทำงานร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และสถาบันวิจัย เพื่อผลักดันประเทศไทยสู่การเป็นฐานนวัตกรรมอาหารที่มีความเข้มแข็งในระดับสากล”

ด้านนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา กล่าวว่า

ความร่วมมือกับสถาบันอาหารในครั้งนี้ เป็นการยกระดับการทำงานด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้สอดคล้องกับบริบทของอุตสาหกรรมอาหารยุคใหม่ ซึ่งนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ถือเป็นหัวใจสำคัญของการแข่งขัน

“กรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงมุ่งเน้นส่งเสริมให้ผู้ประกอบการอาหารไทยเห็นความสำคัญของการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญาตั้งแต่ต้นทาง เพื่อให้นวัตกรรม สูตร เทคโนโลยี และอัตลักษณ์ของผลิตภัณฑ์ สามารถนำไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มศักยภาพ และสร้างความได้เปรียบอย่างยั่งยืนในตลาดโลก”

สำหรับผู้ที่สนใจสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.nfi.or.th หรือ Facebook : สถาบันอาหาร NFI Connext

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours