8 ปี
“สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์”
จากพลังแห่งการให้ สู่ศูนย์การแพทย์นวัตกรรมเพื่อคนไทย

R-U-GO.COM:8 ปีที่ผ่านมา สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ถือเป็นหลักไมล์สำคัญของการกระจายบริการทางการแพทย์สู่ภาคตะวันออก ช่วยลดภาระการเดินทางเข้ากรุงเทพฯ
และต่อยอดวิสัยทัศน์ด้านสาธารณสุขตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 เพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการรักษาอย่างเท่าเทียม โดยมีพลังแห่งการให้
จากผู้บริจาคทั่วประเทศ ผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ เป็นแรงสนับสนุนสำคัญ

รศ.นพ.ชนเมธ เตชะแสนศิริ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดีจักรีนฤบดินทร์ กล่าวว่า
ตลอด 8 ปี สถาบันฯ เป็นกำลังหลักในยุคโรคอุบัติใหม่ เช่น โควิด-19 และก้าวสู่การเป็นศูนย์รวม “นวัตกรรมการศึกษาและการรักษา” ที่ทันสมัย ครอบคลุมผู้ป่วยนอกกว่า 341,000 ราย ผู้ป่วยฉุกเฉิน 16,462 ราย และผู้ป่วยใน 10,813 รายในปี 2567 พร้อมบ่มเพาะบุคลากรแพทย์รุ่นใหม่ ผ่านหลักสูตรเฉพาะทางที่ตอบโจทย์อนาคต ทั้งด้านการบริหารและนวัตกรรม
บทบาทของสถาบันฯ สะท้อนชัดผ่าน 3 พื้นที่นวัตกรรมหลัก ได้แก่


อาคารกายวิภาคคลินิก — พื้นที่บ่มเพาะแพทย์รุ่นใหม่
อาคารกายวิภาคคลินิกเป็นรากฐานการเรียนรู้พรีคลินิก ด้วยนวัตกรรม “ร่างซอฟต์ (Soft Cadaver)” ที่คงสภาพเนื้อเยื่อใกล้เคียงจริง ช่วยให้นักศึกษาและแพทย์เฉพาะทางฝึกหัตถการอย่างลึกซึ้ง ตั้งแต่ผ่าตัดผ่านกล้อง เย็บ-ตัดเนื้อเยื่อ ไปจนถึงเทคนิคซับซ้อนอื่น ๆ
ที่นี่ยังผสานเทคโนโลยีการเรียนรู้ล้ำสมัย ทั้ง VR, โต๊ะ Anatomage, ห้องผ่าตัดจำลอง (Hybrid OR) รวมถึงระบบ Live Teaching และ Remote Learning พร้อมเปิดพื้นที่ความร่วมมือกับทีมวิศวกรรมชีวการแพทย์ นำไปสู่การคิดค้นนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ผู้ป่วยไทยในอนาคต
ศูนย์การเรียนรู้ทักษะทางการแพทย์เสมือนจริง รามาธิบดี (RASME)
ศูนย์ RASME ได้รับการรับรองจาก Society for Simulation in Healthcare (SSH) และเป็นพื้นที่ฝึกปฏิบัติที่เสมือนสถานการณ์จริงที่สุด ตั้งแต่ห้องตรวจ OPD ห้องผ่าตัด ห้องฉุกเฉิน ไปจนถึงเหตุการณ์อุบัติเหตุหมู่
ผู้เรียนจะฝึกกับหุ่นจำลองขั้นสูงที่ตอบสนองเหมือนมนุษย์ พร้อมระบบควบคุมและสังเกตการณ์แบบเรียลไทม์ที่ช่วยประเมินและทบทวนเหตุการณ์ได้ละเอียด อีกทั้งยังโดดเด่นด้านการจำลองการทำงานแบบทีมสหสาขาวิชาชีพ ช่วยให้แพทย์ พยาบาล และบุคลากรร่วมกันตัดสินใจและสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ เหมือนการทำงานจริงในโรงพยาบาล

งานเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อ — ต้นน้ำของความปลอดภัย
งานเวชภัณฑ์ปลอดเชื้อของสถาบันฯ เป็นหนึ่งในระบบอัตโนมัติที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก ออกแบบตามมาตรฐานสากลเพื่อความปลอดภัยสูงสุด โดยครอบคลุมการล้าง ตรวจสอบ บรรจุ และทำลายเชื้อเครื่องมือแพทย์ทุกชิ้น พร้อมระบบติดตามด้วย QR Code / Barcode ที่ตรวจสอบได้ 100%
จุดเด่นคือเครื่องล้าง-นึ่งระบบ Auto-Load ที่ลดการสัมผัสความร้อน เพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพให้เจ้าหน้าที่ อีกทั้งยังออกแบบตามแนวคิด Green Campus ใช้เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สะท้อนบทบาท “ต้นน้ำของมาตรฐานการรักษา” ที่ทั้งปลอดภัยและยั่งยืน
รศ.นพ.ชนเมธกล่าวว่า สถาบันฯ จะเดินหน้าพัฒนางานเฉพาะทาง ขับเคลื่อนงานวิจัย และสร้างความร่วมมือระดับภูมิภาค เพื่อก้าวสู่ศูนย์การแพทย์และวิจัยชั้นนำของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ภายใต้อัตลักษณ์รามาธิบดีที่ผสานความเป็นเลิศทางวิชาการกับหัวใจความเป็นมนุษย์ พร้อมสานต่อพระราชปณิธานด้านการดูแลประชาชนทุกพื้นที่อย่างทั่วถึง

ด้านคุณพรรณสิรี คุณากรไพบูลย์ศิริ ผู้จัดการมูลนิธิรามาธิบดี กล่าวว่า
สถาบันฯ คือผลลัพธ์จาก “พลังแห่งการให้” ของคนไทยทั้งประเทศ เงินบริจาคทุกบาทช่วยเปิดโอกาสให้ผู้ป่วยเข้าถึงการรักษา เทคโนโลยี และองค์ความรู้ใหม่อย่างต่อเนื่อง ก่อให้เกิดคุณค่าที่ส่งต่อสู่สังคมไม่รู้จบ ตามความหมายของ “คำว่าให้…ไม่สิ้นสุด”

ผู้สนใจบริจาคร่างกายเพื่อการศึกษา หรือร่วมสนับสนุนการพัฒนาบุคลากรทางการแพทย์และช่วยเหลือผู้ป่วยยากไร้ สามารถติดต่ออาคารกายวิภาคทางคลินิก สถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์ หรือบริจาคผ่านมูลนิธิรามาธิบดีฯ ที่
#คำว่าให้ไม่สิ้นสุด
+ There are no comments
Add yours