R-U-GO.com : บริษัท ปันศิริ อกรีเค้าเจอร์ฯ ผสานไอเดียผ่านนวัตกรรมพัฒนาสายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม สร้างแบรนด์ “เบอเคซ่า” ตั้งเป้าส่งออก 200 ตัน พร้อมระดมทุนสตาร์ทอัปขยายธุรกิจ ด้วยสินค้านวัตกรรมเพื่อสังคมและผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม คุณภาพสูง ขายผ่านตลาดออนไลน์ทั้งในและต่างประเทศ เพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ และความยั่งยืนให้ชุมชน
นายณัฐพงษ์ ปันตา กรรมการผู้จัดการ บริษัท ปันศิริ อกรีเค้าเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เกษตรกรหนุ่ม จาก ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า จากประสบการณ์ที่ได้ทำงานด้านเกษตร รวมทั้งมีพื้นฐานความรู้ในการทำเกษตรจากครอบครัว จึงได้ก่อตั้งธุรกิจผลิตและจำหน่ายเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมในรูปแบบทะเบียนพาณิชย์ ตั้งแต่ปี 2555 ที่ อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ และได้ดำเนินการจดทะเบียนรูปแบบบริษัท ในปี 2562 ด้วยทุนจดทะเบียน 2 ล้านบาท เพื่อดำเนินธุรกิจผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม โดยได้รับการรับรองสินค้ามาตรฐานของไทยสำหรับผู้ดำเนินธุรกิจการค้าขาออก ใบอนุญาตรวบรวมเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า ใบอนุญาตส่งออกเมล็ดพันธุ์ควบคุมเพื่อการค้า และได้รับใบรับรองสินค้า MIT โดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย รวมทั้งการเป็นสมาชิกของสมาคมเมล็ดพันธุ์แห่งประเทศไทย
จากการเข้าร่วมโครงการด้านนวัตกรรมเกษตรของหน่วยงานรัฐแห่งหนึ่งพร้อมกับได้รับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมสายพันธุ์แท้ชั้นดีที่ใช้นวัตกรรมและผ่านการวิจัย การปรับปรุงพัฒนาสายพันธุ์ให้มีคุณภาพสูง จึงได้นำมาทดลองปลูกในหลายพื้นที่ที่มีความแตกต่างอย่างหลากหลาย มีศักยภาพสูง ปรับตัวได้ดี ให้ผลผลิตต่อไร่สูง ทนต่อโรค จึงได้ตัดสินใจปลูกผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์ เพื่อการทำเป็นผลิตภัณฑ์เกษตรอุตสาหกรรม และนำองค์ความรู้มาพัฒนาต่อยอดสร้างเป็นแบรนด์ “เบอเคซ่า” (BEUKEZA) เป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมคุณภาพสูง จำหน่ายให้แก่เกษตรกรภายในพื้นที่ ต่อมาได้ขยายตลาดไปยังจังหวัดใกล้เคียง และเมื่อ 2-3 ปีที่ผ่านมาได้ขยายตลาดไปทั่วประเทศ และต่างประเทศ ผ่านช่องทางออนไลน์ พร้อมทั้งสามารถขยายพื้นที่ปลูกด้วยการมีลูกไร่เพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี
“ปัจจุบันเรามีลูกไร่และพื้นที่ปลูกเพื่อผลิตเป็นเมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมแล้วมากกว่า 1 พันไร่ โดยคาดว่าจะเพิ่มพื้นที่ปลูกให้มากยิ่งขึ้นอีก เพื่อเพิ่มปริมาณการผลิตให้ตอบสนองความต้องการวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ทั้งภายในและต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศ ในกลุ่ม CLMV รวมทั้งประเทศจีน และตลาดประเทศใหม่ เช่น อินเดีย ปากีสถาน เป็นต้น ซึ่งถือเป็นประเทศที่มีการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มมากขึ้น จึงมีความต้องการเมล็ดพันธุ์เพิ่มมากขึ้นตามไปด้วยเช่นกัน โดยประเทศเหล่านี้ยังไม่สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์คุณภาพสูงเองได้ โดยในปีที่ผ่านมาได้มีโอกาสไปเปิดตลาดทดลองจำหน่ายในประเทศเมียนมาร์ โดยเปิดบริษัทลูกไว้สำหรับทำการตลาดที่ เมืองพะโค คือ บริษัท เบอเคซ่า เมียนมาร์ จำกัด เพื่อช่วยทำด้านการตลาดการจัดจำหน่าย และกระจายสินค้าให้แก่ลูกค้าที่นั่นอีกด้วย”
จากผลความสำเร็จดังกล่าว บริษัทฯ จึงได้วางเป็นวิสัยทัศน์และทิศทางการดำเนินธุรกิจตั้งแต่ปี 2564-2568 ให้สอดคล้องกับความต้องการของตลาดที่เติบโตขึ้น และสถานการณ์ COVID- 19 ด้วยการเป็นแบรนด์เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสม คุณภาพดี มี มาตรฐานด้วยนวัตกรรม เพื่อความยั่งยืนของชุมชน” ด้วยความมุ่งมั่น และตั้งใจที่ต้องการสร้างแบรนด์ “เบอเคซ่า” มีจุดเด่นในด้านคุณภาพ มาตรฐาน และราคาที่ทุกคนซื้อได้ เพื่อการบริหารจัดการ ต้นทุนการผลิต ด้วยการทำการวิจัย พัฒนา และใช้นวัตกรรมในการปรับปรุงสายพันธุ์จากงานวิจัยร่วมกับหน่วยงานของภาครัฐ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้สายพันธุ์ที่มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัย คุณภาพดี มีมาตรฐาน สามารถนำมาใช้เป็นประโยชน์แก่เกษตรกรที่จะได้ใช้เมล็ดพันธุ์ไทย ที่ทนต่อโรค และให้ผลผลิตเพิ่มสูงมากยิ่งขึ้น พร้อมกับสร้างงาน สร้างรายได้ให้เกษตรกรในชุมชนได้อยู่ดีกินดีและมีความสุขอย่างยั่งยืนซึ่งถือเป็นนโยบายนวัตกรรมเพื่อสังคมของบริษัทฯ เช่นกัน
สำหรับผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นของบริษัทฯ คือ เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์แบบลูกผสมเดี่ยว (Hybrid Corn Seed) ภายใต้แบรนด์ “เบอเคซ่า” โดยสินค้าแต่ละชนิดมีจุดเด่นคือ เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยวสายพันธุ์ใหม่ BKS 6619 และ BKS 6303 เน้นการทำตลาดในประเทศ และกลุ่มประเทศ CLMV โดย ผลิตภัณฑ์ BKS 6619 ฝักใหญ่และยาวมาก เมล็ดใหญ่ ผลผลิตสูง ต้านทานโรคทางใบ ลำต้นใหญ่ ตัดต้นทำข้าวโพดหมักได้ดี ส่วนผลิตภัณฑ์ BKS 6303 ฝักใหญ่ น้ำหนักดี ผลผลิตสูง ต้านทานโรคทางใบ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ BKS 688 ฝักคู่ ยืนต้นนาน ทนทานโรค ให้ผลผลิตต่อไร่สูง รวมถึงผลิตภัณฑ์ BK 333 ฝักใหญ่ ลำต้นแข็งแรง หักเก็บใหญ่ ได้น้ำหนัก เป็นสายพันธุ์ที่ปรับตัวง่าย เพราะสามารถเก็บแห้งได้ ทำให้เป็นผลิตภัณฑ์ ยอดนิยมทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน บริษัทฯ มีเครือข่ายเกษตรพันธะสัญญา (Contact Farming) อยู่ ในจังหวัดเชียงใหม่ รวมกันมากกว่า 1 พันไร่ สามารถผลิตเมล็ดพันธุ์ได้กว่า 300 ตัน หรือมากกว่า โดยมีแผนที่จะเพิ่มจำนวนเครือข่ายเกษตรกร และพื้นที่การปลูกให้ได้ 5 พัน – 1 หมื่นไร่ภายใน 2-3 ปีนี้ เพื่อสามารถรองรับตามความต้องการลูกค้าที่เติบโตขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคต โดยในปี 2565 เป็นต้นไปได้ตั้งเป้าหมายที่จะขยายตลาดไปประเทศกัมพูชาและลาว รวมทั้งการสรรหาพันธมิตรธุรกิจด้านตัวแทนจำหน่ายในเมียนมาร์เพิ่มมากขึ้น ทั้งบริษัทท้องถิ่น หรือบริษัทของคนไทยที่ไปลงทุนและมีประสบการณ์ รวมทั้งความชำนาญในเครือข่ายของตลาดท้องถิ่น พร้อมทั้งตลาดใหม่ในอีกสองประเทศด้วยเช่นกัน โดยบริษัทฯ ได้วางแผนทำการตลาด และการขายแบบครบวงจร ทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมทั้งการให้ปรึกษาต่าง ๆ ร่วมกันกับพันธมิตรธุรกิจคู่ค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยตั้งเป้าการส่งผลิตภัณฑ์ออกไปขายยังประเทศเหล่านี้ ประมาณ 150-200 ตัน ในฤดูกาลปลูกของปี 2565–2566
สำหรับแผนการขยายธุรกิจในอนาคต 3-5 ปี ข้างหน้า บริษัทฯ ได้วางเป้าหมายเพื่อสร้างรายได้และความเติบโตในการพัฒนาการตลาดและผลิตภัณฑ์ ด้วยการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ด้วยนวัตกรรมให้หลากหลาย และมีความโดดเด่นมากขึ้น เพื่อขยายฐานการผลิตไปยังกลุ่มประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกับการเป็นแบรนด์สินค้าผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์สำเร็จรูปแบบครบวงจร อย่างยั่งยืน โดยมีแผนการที่จะระดมทุนแบบสตาร์ทอัป ทั้งแบบคราวน์ฟันดิ้ง (Crowdfunding) หรือเป็นพันธมิตรธุรกิจแบบการร่วมลงทุน (Venture Capital) เพื่อสร้างความยั่งยืนและมั่นคงให้เกษตรกรไทยด้านข้าวโพดเลี้ยงสัตว์
สนใจผลิตภัณฑ์เมล็ดพันธุ์ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ลูกผสมเดี่ยว แบรนด์ เบอเคซ่า (BEUKEZA) หรือร่วมเป็นพันธมิตรธุรกิจ คู่ค้า ตัวแทนจำหน่าย และ ร่วมลงทุน กับ บริษัท ปันศิริ อกรีเค้าเจอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สามารถติดต่อ ได้ที่ โทร 09 1753 8323 e-Mail : beukazathailand@gmail.com / FB Fanpage : https://www.facebook.com/beukezacornseed
สำหรับ บริษัทในประเทศเมียนมาร์ สามารถติดต่อ ได้ ที่ Beukeza Myanmar Company Limited, No.205/B,Kyee Nyi Kan Street,Mazin Quarter,Bago Township,Bago Region,Myanmar Contact 09 4565 66456, 09 7659 78995 e-Mail : beukezamyanmar@gmail.com