R-U-GO:ได้มีโอกาสไปร่วมทริปเส้นทางท่องเที่ยว “ รัก(ษ์)ประจวบฯ…Go Green Go Prachuap”ซึ่งททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์เป็นเจ้าภาพอำนวยความสะดวกตลอดระยะเวลา 2 วัน 1 คืน ถึงแม้จะเป็นระยะเวลาแค่สั้นๆ แต่มนต์เสน่ห์ของประจวบฯนั้นได้สะกดให้หลงรักประจวบฯแบบไม่รู้จบเข้าให้แล้ว
กลุ่มจักสานหวายบ้านห้วยเกรียบ
เป็นจุดหมายแรกที่ได้ไปเยี่ยมชมของทริปนี้ ชุมชนแห่งนี้เป็นชาวบ้านที่อพยบมาจากนครศรีธรรมราช เมื่อครั้งแหลมตะลุมพุกเกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ปีพ.ศ. 2505 ซึ่งชาวบ้านได้รับความเดือดร้อนจึงอพยพมาที่นี่ และได้สืบสานภูมิปัญญาในการผลิตเครื่องจักสานหวายมาด้วย ซึ่งผลิตภัณฑ์หวายของที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษ คือ การนำเอาหวายดำมาเป็นส่วนประกอบในงานจักสานต่างๆ เช่น กระเป๋าหิ้ว ตะกร้า กระจาด ชุดขันโตกและตะกร้าหวายสี่เหลี่ยมหูพับ หรืองานชิ้นใหญ่อย่างเปลเด็ก มีทั้งสีหวายเรียบ และหวายที่ย้อมสีสันสวยงาม นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์กะลามะพร้าว เช่น เครื่องประดับตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า อาหารแปรรูปต่างๆ
บ้านห้วยเกรียบ ตั้งอยู่ในเขตตำบลทองมงคล ห่างจากทางแยกเข้าอำเภอบางสะพานไปทางทิศใต้ตามทางหลวงหมายเลข 4 ประมาณ 10 กิโลเมตร
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ นายสว่าง อยุู่เอียด ประธานกลุ่มจักสานบ้านห้วยเกรียบ โทร.09 3240 2855
เสี่ยงโชคร่อนทองที่บ้านป่ารอน
บ้านป่ารอนอยู่ไม่ห่างจากบ้านห้วยเกรียบเท่าไหร่นัก ซึ่งบ้านป่ารอนมีชื่อเสียงโด่งดังเป็นข่าวหน้าหนึ่งอยู่หลายวันก็เพราะว่ามีคนโชคดีได้ทองมูลค่านับแสนบาทจากการมาร่อนทองจากที่นี่
ตำบลร่อนทอง เดิมเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของเมืองกำเนิดนพคุณ และเป็นพื้นที่ที่มีแร่ทองคำเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะที่บ้านป่าร่อน ได้มีราษฎรจากแหล่งต่าง ๆ รวมทั้งชาวต่างชาติได้อพยพเข้ามาในพื้นที่ขุดหาแร่ทองคำ มีการจัดตั้งบ้านเรือนกันเป็นกลุ่ม ๆ เช่น ที่กลุ่มตลาดห้วยจังหัน กลุ่มท่าตลาด ฯลฯ เมื่อมีการปฏิรูปการปกครองใหม่ เมืองกำเนิดนพคุณ ได้รับการประกาศจัดตั้งเป็นอำเภอบางสะพาน ก็ได้มีการจัดตั้งตำบลต่าง ๆ ขึ้น เช่น ตำบลกำเนิดนพคุณ ตำบลธงชัย ตำบลพงศ์ประศาสน์ ตำบลบางสะพานน้อย และตำบลป่าร่อน (ตำบลร่อนทองในปัจจุบัน) และต่อมาได้มีการเปลี่ยนแปลงชื่อตำบลให้มีความหมายกว้างขึ้นกว่าเดิม โดยเปลี่ยนจากตำบลป่าร่อนเป็น “ตำบลร่อนทอง”
หลังจากที่มีคนมาร่อนทองกันที่นี่เป็นจำนวนมาก ทาง อบต.ร่อนทอง มีแนวคิดนำเสนอวิถีชีวิตการร่อนทองของชาวบ้านตำบลร่อนทองที่สืบทอดมาจากอดีตจนถึงปัจจุบัน ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่แปลกและน่าสนใจ ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินทางมา ชมวิถีชีวิตชาวบ้านที่ไปร่อนทองในคลองได้ โดยปัจจุบันยังคงมีชาวบ้านใช้เวลาช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ไปร่อนทองในคลองทองกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถที่จะเช่าเลียงไปร่อนหาทองในคลองทองด้วยตนเองได้ด้วย โดยทองบางสะพานถือว่าเป็นทองคำที่ดีที่สุดในประเทศ ในอดีตปรากฏหลักฐานในพงศาวดาร ในรัชสมัยของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวบรมโกศ ใน พ.ศ.2289-2291 ได้เกณฑ์ไพร่พล 2 พันคน มาร่อนทองที่บางสะพาน ได้ทองคำ 90 ชั่ง น้ำหนัก 54 กิโลกรัม หรือน้ำหนักทอง 3,600 บาท นำไปหุ้มยอดมณฑปพระพุทธบาทสระบุรี
วิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษทับสะแก
ปิดท้ายด้วยการมาเรียนรู้การทำเกษตรปลอดสารพิษที่วิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษทับสะแก ซึ่งวิสาหิจชุมชนแห่งนี้มีศูนย์เรียนรู้มากมายไม่ว่าจะเป็นการทำนา การปลูกผัก การทำสปาทราย แต่ที่เป็นไฮไลท์คือการสอนการทำมะพร้าวให้เป็นมะพร้าวกะทิซึ่งได้คุณวิทยา สันติสุขไพบูลย์มาเป็นคนถ่ายทอดศาสตร์ที่ว่านี้
นอกจากจะได้ความรู้แล้วยังจะได้ความอร่อยที่ไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือนเพราะเมนูนี้มีหารับประทานได้จากที่นี่ที่เดียวนั่นก็คือเมนู “อัญมณีนกคุ้มแห่งทุ่งประดู่” เมนูที่ว่านี้ก็คือทับทิมกรอบ แต่ที่ไม่เหมือนที่อื่นและที่อื่นก็ทำได้ไม่เหมือนก็เพราะว่า ทับทิมกรอบที่นี่ใช้มะพร้าวพันธุ์นกคุ้มซึ่งเป็นพันธุ์ที่หาได้จากที่นี้เท่านั้น จึงอร่อยมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จะอร่อยแค่ไหนนั้น ต้องมาพิสูจน์ด้วยลิ้นของตัวเอง
และที่ห้ามพลาดสำหรับสายแชะ คนที่ชอบถ่ายรูปเป็นชีวิตจิตใจขอแนะนำโลเคชั่นสุดชิคซึ่งเป็นสะพานรถไฟที่อยู่ด้านหลังราว 50 เมตร
วิสาหกิจชุมชนผักปลอดสารพิษทับสะแก 100/2 หมู่ที่ 3 ถนน ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โทร 08 1572 9665
นี้คือ…..เส้นทางท่องเที่ยว “ “รัก(ษ์)ประจวบฯ…Go Green Go Prachuap” ที่จะทำให้คุณหลงรักประจวบฯ แบบไม่รู้จบ